Skip to content

แบกเป้เที่ยว จอร์เจีย แบบจัดเต็ม นักท่องเที่ยวไทยบินไปได้แล้ว!

จอร์เจีย , Georgia , เที่ยวจอร์เจีย , ตั๋วเครื่องบิน , ฟรีวีซ่า , ยุโรป , โควิด , bljourney , pantip , รีวิว , งบ , เที่ยวจอร์เจียด้วยตัวเอง, เที่ยวจอร์เจียคนเดียว , วางแผนเที่ยวจอร์เจีย, ทริปจอร์เจีย , อาหารการกิน , สกุลเงินจอร์เจีย , โปรโมชั่น , โค้ดลด , traveloka , ทราเวลโลกา , พาลูกเที่ยว, ท่องเที่ยว , blueplanet , review , The Bridge of Peace , สะพานแห่งสันติภาพ , แบกเป้เที่ยว , มหาวิหารซาเมบา , Sameba Cathedra, โบสถ์เกอลาติ , Gelati Monastery , โบสถ์สมินดา ซาเมบา ,Tsminda Sameba , เมืองอุพลิสชิเค่, Uplistsikhe,เทือกเขาคอเคซัส ,Caucasus Mountains,Lari , เที่ยวจอร์เจียเดือนไหน

ประเทศ จอร์เจีย ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งในประเทศที่เต็มไปด้วยเรื่องราว และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆมากมายที่น่าหลงใหล เพราะเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรม วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของผู้คนในสไตล์ยุโรปผสมเอเชีย ที่ทำให้ประเทศแห่งนี้นั้นได้กลายเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยว ยอดนิยมที่เต็มไปด้วยนักเดินทางจำนวนมาก นอกจากนี้ในเรื่องของการเดินทางมาก็ยังง่ายและสะดวกมากๆ เพราะประเทศจอร์เจียแห่งนี้นั้นเป็นหนึ่งในประเทศที่ตั้งอยู่ในทวีปยุโรป ซึ่งสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้โดยที่ไม่ต้องขอวีซ่า ดังนั้นวันนี้เราก็จะมาพาทุกคนไปดูกันว่า เราจะพาไปแบกเป้เที่ยวจอร์เจียแบบจัดเต็ม ไปเองได้ไม่ต้องขอวีซ่ากันอย่างไรบ้าง โดยทริปนี้จะเริ่มไม่ได้เลยหากเราไม่ได้จองตั๋วผ่านทาง Traveloka เว็บไซต์ท่องเที่ยวที่จะทำให้การเดินทางของคุณ สะดวก ง่าย ในราคาสุดคุ้ม ดังนั้นหากใครที่อยากเดินทางมาเที่ยวแบบเราแล้วละก็ห้ามพลาดกดจองตั๋วเครื่องบิน จอร์เจีย แล้วมาเที่ยวกับเราได้เลย

แม้ว่าช่วงนี้บางประเทศยังไม่สามารถเดินทางไปเที่ยวได้ แต่สำหรับจอร์เจียนั้นเปิดรับผู้เดินทางจากประเทศไทยแล้ว เพียงแค่คุณฉีดวัคซีนครบโดส 2 เข็ม ก็สามารถจองตั๋วเครื่องบินไปเที่ยวจอร์เจียกันได้แล้ว แต่สำหรับใครที่อยากลองเช็คมาตรการท่องเที่ยวก่อน
แนะนำเข้าไปดูได้ที่นี่เลย > https://www.traveloka.com/th-th/flight/safe-travel
จองตั๋วเครื่องบินจอร์เจีย ราคาโปรโมชั่น คลิก https://www.traveloka.com/th-th/flight-to-georgia

เที่ยว จอร์เจีย เดือนไหนดี?

สำหรับการเดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศจอร์เจียแห่งนี้นั้น สามารถมาท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แล้วแต่ว่าเราอยากจะไปเที่ยวชมบรรยากาศในช่วงฤดูไหนมากกว่า โดยฤดูของประเทศจอร์เจียนั้นก็จะมีตั้งแต่

  • เดือนมีนาคม – พฤษภาคม (ฤดูใบไม้ผลิ)

          ในช่วงฤดูใบไม้ผลินี้ จะเป็นช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงเพื่อเข้าสู่หน้าร้อน ดังนั้นจะทำให้มีบรรยากาศที่ค่อนข้างดีไม่หนาวเกินไป และไม่ร้อนจนเกินไป แถมยังมีช่วงเวลาของพระอาทิตย์แบบปกติ ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถแพลนเวลาเที่ยวได้ยาวนานขึ้น และสามารถท่องเที่ยวถ่ายรูปได้อย่างสวยงาม ดังนั้นหากใครที่ไม่ค่อยชอบอากาศที่หนาวเกินไปและอยากมาเที่ยวในช่วงเดือนที่อากาศกำลังสบายๆ แล้วละก็สามารถมาได้ในช่วงเดือนนี้เลย

  • เดือนมิถุนายน – สิงหาคม (ฤดูร้อน)

          ส่วนใหญ่แล้วในช่วงฤดูร้อนนี้ จะเป็นช่วงที่ชาวตะวันตกเดินทางมาท่องเที่ยวมากที่สุด เนื่องจากว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมเดินทางมาอาบแดดเพื่อให้เกิดเป็นผิวสีแทนที่สวยงาม อีกทั้งในช่วงฤดูนี้จะเป็นช่วงที่ท้องฟ้าเปิดมากที่สุด จึงทำให้นักท่องเที่ยวสามารถถ่ายรูปได้อย่างงดงาม หมดกังวลเรื่องฟ้ามืด ฝนตก ในช่วงเดือนนี้ได้เลย

  • เดือนกันยายน – พฤศจิกายน (ฤดูใบไม้ร่วง)

          หากใครที่ชอบวิวทิวทัศน์แนวสีส้มๆ ของฤดูใบไม้ร่วงแล้วละก็ ขอแนะนำให้เดินทางมาช่วงเดือนนี้ได้เลย เพราะจะเป็นช่วงที่ใบไม้กำลังเปลี่ยนสี ดังนั้นอากาศในช่วงเดือนก็จะเริ่มเปลี่ยนจากร้อนมาเป็นอากาศที่เย็น และจะเริ่มหนาวมากขึ้นในช่วงตอนกลางคืน อีกทั้งยังเริ่มมีหิมะตกในบางพื้นที่ ที่เป็นเทือกเขาสูง

  • เดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ (ฤดูหนาว)

          มาถึงช่วงเดือนยอดฮิตที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกมากมาย นั้นก็คือช่วงเดือนธันวาคมเป็นต้นไป เนื่องจากในช่วงฤดูหนาวของที่นี่นั้นจะเต็มไปด้วยหิมะจำนวนมาก จึงทำให้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมเดินทางมาเพื่อเล่นสกีที่บริเวณสถานที่แห่งนี้ ดังนั้นแนะนำว่าหากใครที่อยากมาสัมผัสกับบรรยากาศหิมะสีขาวโพลนแบบนี้แล้วละก็ สามารถเดินทางมาได้ในช่วงเดือนนี้เลย แต่แนะนำว่าควรเตรียมร่างกาย และเสื้อผ้าอุ่นๆ มาให้พร้อมเพราะอากาศที่นี่ค่อนข้างหนาวมากเลยทีเดียว

ค่าเงินจอร์เจียที่ต้องรู้

หลังจากหาช่วงเดือนเที่ยวที่เหมาะสมกันไปแล้วก็มาต่อกันที่เรื่องสกุลเงินของประเทศจอร์เจียกันบ้าง ซึ่งสกุลเงินของที่นี่นั้นจะเป็นสกุล ลารี (GEL = Georgian Lari) ที่มีค่าเท่ากับ 1 ลารี ก็ประมาณ 10.59 บาทไทย โดยเราสามารถแลกเงินจากไทยเป็น USD, GBP, RUP, EUR ไปก่อนได้แล้วค่อยไปแลกเป็นเงิน GEL ในเมืองจอร์เจีย เพราะบางครั้งเรตเงินอื่นจะถูกกว่าเมื่อนำไปแลกที่นั่นก็จะได้ราคาอีกเรต แต่แนะนำว่าให้แลกในเมือง เพราะถ้าแลกที่สนามบินเรตจะค่อนข้างสูงกว่าเลยทีเดียว

สถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดเมื่อมาที่จอร์เจีย

1. เทือกเขาคอเคซัส (Caucasus Mountains)

         เมื่อพูดถึงการเดินทางมาท่องเที่ยวที่จอร์เจียนั้น เทือกเขาคอเคซัส แห่งนี้ถือได้ว่าเป็นเหมือนแลนด์มาร์กที่ห้ามพลาดเลยทีเดียว เนื่องจากบริเวณเขาคอเคซัสแห่งนี้เป็นเทือกเขาที่แบ่งพรมแดนระหว่างยุโรปและเอชีย อีกทั้งยังเป็นอีกหนึ่งเทือกเขาที่มีความสูงที่สุดในทวีปยุโรป ดังนั้นจึงทำให้บริเวณสถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวมากมายที่ต่างพากันเดินทางมาเพื่อผจญภัยไปกับความสวยงามและความท้าทายของภูเขาสูงใหญ่ลูกนี้ ดังนั้นหากใครที่ชอบการเดินทางแบบแอดเวนเจอร์แล้วละก็ แนะนำว่าให้ลองมาเดินทางชมความสวยงามที่บริเวณเทือกเขาคอเคซัสแห่งนี้ได้

2. เมืองอุพลิสชิเค่ (Uplistsikhe)

          หลังจากเดินทางแนวผจญภัยกันไปแล้วเราก็ไปต่อกันที่สถานที่ท่องเที่ยวจอร์เจียที่ต่อมาอย่าง เมืองอุพลิสชิเค่ หรือ เมืองโบราณที่มีความงดงามเป็นอย่างมากอีกแห่งหนึ่งของประเทศจอร์เจีย เนื่องจากบริเวณพื้นที่แห่งนี้นั้นตั้งอยู่บริเวณฝั่งแม่น้ำ Mtvkvari เขตชีดาคาร์ตลี ซึ่งเป็นบริเวณที่มีลักษณะเป็นหมู่บ้านยุคหินเล็กๆ ที่มีอายุยาวนานกว่า 3,000 ปี โดยภายในสถานที่แห่งนี้นั้นจะมีภูเขาเล็กๆ ที่มีการขุดเจาะเพื่อทำให้เป็นบ้านพักอาศัยของชาวบ้าน และยังมีการสร้างสถานที่สำคัญๆ อย่าง โบสถ์ ที่เต็มไปด้วยวิวทิวทัศน์ของภูเขาและแม่น้ำที่มีความสวยงามเป็นอย่างมาก ทำให้นักท่องเที่ยวต่างพากันหลงใหลและมาเดินเยี่ยมชมสถานที่หาชมยากกันที่บริเวณนี้

3. โบสถ์สมินดา ซาเมบา (Tsminda Sameba)

         โบสถ์สมินดา ซาเมบา ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของประเทศจอร์เจีย เนื่องจากสถานที่แห่งนี้นั้นเป็นโบสถ์ที่มีความเก่าแก่เป็นอย่างมาก ตั้งอยู่ที่บริเวณหมู่บ้าน Gergeti เมือง Stepantsminda เขตมซเคตา มเตียเนตี เทือกเขาคอเคซัส ทางตอนเหนือของเมืองทบิลิซี โดยภายในตัวโบสถ์แห่งนี้เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปีศตวรรษที่ 14 จึงทำให้สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยกลิ่นอายของวัฒนธรรมโบราณ และความสวยงามของวิวทิวทัศน์ที่ตั้งอยู่บริเวณเหนือสุดของภูเขาอีกด้วย

4. โบสถ์เกอลาติ (Gelati Monastery)

         ไปต่อกันที่โบสถ์เกอลาติ ที่ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศจอร์เจียที่มีความโด่งดังเป็นอย่างมาก เพราะพื้นที่บริเวณนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เนื่องจากโบสถ์แห่งนี้นั้นถือว่าเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นเอกยุคทองของเศรษฐกิจและการเมือง ของประเทศจอร์เจียในช่วงศตวรรษที่ 11 และ 13 จึงทำให้โบสถ์แห่งนี้โดดเด่นไปด้วยความสวยงามของตัวอาคารขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยอิฐบล็อกที่มีสีเรียบง่ายและมีความงดงาม รวมไปถึงโครงสร้างของตัวประตู หน้าต่างที่มีการออกแบบสัดส่วนการเว้าโค้งได้อย่างสวยงาม นอกจากนี้พื้นที่บริเวณนี้ยังเป็นทั้งศูนย์การเรียนรู้ และศูนย์รวมวัฒนธรรมที่สำคัญที่สุดในสมัยก่อนอีกเช่นกัน ดังนั้นจึงทำให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศจอร์เจียเลยทีเดียว

5. มหาวิหารซาเมบา (Sameba Cathedral)

         มหาวิหารซาเมบา หรือ สัญลักษณ์ยุคใหม่ของประเทศจอร์เจีย ซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณเนินเขาริมฝั่งแม่น้ำคูรา และได้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 2004  จึงทำให้บริเวณสถานที่แห่งนี้มีความเก่าแก่ และเป็นโบสถ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ อีกทั้งมหาวิหารแห่งนี้ยังมีความสวยงามในเรื่องของสถาปัตยกรรมร่วมสมัย และมีการตกแต่งด้วยโดมทองคำที่ทำให้มหาวิหารแห่งนี้ดูยิ่งใหญ่อลังการจนทำให้เป็นที่โดดเด่นทำให้นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นได้อย่างง่ายดายจากภายในเมืองทบิลิชี

6. สะพานแห่งสันติภาพ (The Bridge of Peace)

          มาถึงสถานที่สุดท้ายที่หากใครเดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศจอร์เจียแห่งนี้แล้วห้ามพลาดนั้นก็คือ สะพานแห่งสันติภาพ หรือ The Bridge of Peace ซึ่งเป็นสะพานคนเดินที่มีความสวยงามไปด้วยการออกแบบด้วยโครงเหล็กและแก้วให้เป็นทรงโค้งที่ได้รูป พร้อมกับการตกแต่งไปด้วยไฟ LED มากมายเพื่อให้เกิดเป็นภาพของแสงไฟมากมายที่กระทบกับสายน้ำตลอดทางยาวกว่า 150 เมตร จนทำให้เกิดเป็นภาพที่งดงาม ดังนั้นหากใครที่เดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศนี้แล้วละก็ไม่ควรพลาดมาชื่นชมบรรยากาศในยามค่ำคืน ไปพร้อมกับการถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกลับไปได้เลย

          เป็นอย่างไรกันบ้างและนี้ก็เป็นการรีวิวแบกเป้เที่ยวจอร์เจียแบบจัดเต็มได้ ไปเองได้ไม่ต้องขอวีซ่า ที่เราอยากจะมาแนะนำทริคเล็กๆ ในการเดินทางไปท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางกันได้อย่างสนุกสนาน และที่สำคัญการเดินทางของเรานั้นจะเริ่มขึ้นไม่ได้เลยหากไม่มี Traveloka ตัวช่วยที่จะทำให้การเดินทางของเราประหยัดสุดคุ้ม แถมยังกดจองตั๋วเครื่องบินได้ง่ายๆ อีกด้วย หากใครที่อยากเดินทางไปท่องเที่ยวแบบเราแล้วละก็ สามารถคลิกด้านบนได้เลย

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณเพื่อนๆ ที่ติดตามรีวิวของผม นะครับ หวังว่าคงจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆนะครับ รบกวนฝากไลค์ Facebook Fanpage BLJourney เพจน้องเบลล่า และ Share บทความต่างๆของ BLJourney.comเพื่อเป็นกำลังใจให้กับ ครอบครัวของเราด้วยครับ รีวิวหน้าจะไปที่ไหนกันอย่าลืมมาติดตามชมกันนะครับ ขอบคุณมากๆครับ

Comments

comments

Leave a Reply