ถ้าจะหาบุฟเฟต์ที่คุ้มๆครบๆดีสุดๆของโรงแรมหลายๆที่ก็ต้องเป็นมื้อสายวันอาทิตย์หรือ Sunday Brunch นั่นเอง และวันนี้เราจะไปกันที่ Movenpick BDMS Wellness Resort Bangkok โรงแรมเปิดใหม่ย่านถนนวิทยุ จะเด็ด คุ้ม อร่อยแค่ไหนไปชมกันได้เลยครับ
Movenpick BDMS ได้ยินชื่อเพื่อนๆอาจจะไม่คุ้นกันเท่าไหร่ ใช่ครับ โรงแรมนี้พึ่งเปิดเมื่อเดือนมิถุนายน 2562 ที่ผ่านมานี่เองครับ โดยเป็นการรีโนเวท โรงแรมปาร์คนายเลิศ มาเป็น ศูนย์สุขภาพและเวลเนสระดับสากลที่ชื่อว่า “BDMS Wellness Clinic” ซึงมีให้บริการทั้งห้องพักและห้องอาหารต่างๆอย่างครบถ้วยเลยครับ
การเดินทางสามารถมาโดยรถส่วนตัวได้อย่างสะดวกเลย หรือถ้ามาโดยรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีเพลินจิตแล้วเดินต่อมาประมาณ 700 เมตรครับ
ที่จอดรถจะอยู่ที่ตึกด้านหน้า เราสามารถเดินไปตามทางเชื่อมหรือจะนั่งรถ Shuttle ไปก็ได้ครับ
ห้องอาหาร Tamarind Natural Dining (แทมมาริน เนเชอรัล ไดนิ่ง) ห้องอาหารหลักของโรงแรม ห้องอาหารโปร่ง เพดานสูง มีที่นั่งทั้งด้านในและด้านนอก บรรยากาศโดยรวมดีมากเลยครับ นั่งได้สบายๆ ไลน์อาหารวางอยู่รอบๆไม่แออัด ถือว่าดีเลยตรงจุดนี้
หนึ่งในไฮไลท์หลักของ Sunday Brunch ที่นี่คือมุม Grilled Station ที่อยู่ด้านนอกครับ มีอาหารให้เราเลือกทานทั้งหมด 5 อย่าง ได้แก่ แซลมอน (Tasmanian Wild Salmon), เนื้อเทนเดอร์ลอยด์ (Prime Grass-fed Tenderloin), เนื้อริบอาย (Angus Grass-fed Ribeye), กุ้งลายเสือ (Grilled River Prawns) และเมนล็อบสเตอร์ (Maine Lobster)
Maine Lobster หนึ่งในล็อบสเตอร์ชั้นดีที่เป็นที่นิยมในอเมริกา ที่นี่นำมาให้กินกันแบบไม่อั้นเลย
เนื้อเทนเดอร์ลอยด์ (Prime Grass-fed Tenderloin), เนื้อริบอาย (Angus Grass-fed Ribeye), กุ้งลายเสือ (Grilled River Prawns) วางไว้ให้ตักกันอย่างเต็มที่
กุ้งลายเสือ ตัวใหญ่ ความสดดีมาก
รวมๆมา 1 จาน ต้องบอกเลยว่าวัตถุดิบทั้ง 5 อย่างนี้ถือเป็นเกรดพรีเมียมเลย ล็อบสเตอร์สด หวาน กุ้งสดเด้ง เนื้อนุ่ม แซลมอนสดหวาน แต่เนื่องจากพึ่งเปิดไลน์อาจจะมีปัญหาการจัดออเดอร์ไปบ้าง และเวลาย่างหลายๆอย่างบางทีทำให้คุมไฟยาก อาจจะมีบางออเดอร์ที่จะ Overcookedไปบ้าง
Seafood On Ice สารพัดอาหารทะเลมากมายมาให้เลือกทานกันอย่างเต็มที่ ทั้งปูอลาสกา ปูหิมะ ปูม้า กุ้งทะเล กั้งกระดาน หอยเชลล์ หอยแมลงภู่ หอยตลับ หนวดปลาหมึกยักษ์
ใครชอบบหอยนางรมน่าจะฟินเลยครับ ที่นี่มีหอยนางรมถึง 5 ชนิด Fines de Claire, Korean, Normandy, Jersy และ Irish พร้อมเครื่องเคียงให้เลือกกินกันแบบไม่อั้น
ปูชิ้นใหญ่ เนื้อแกะง่ายมาก เนื้อไม่ลุ่ยไม่เละ บางชิ้นอาจไม่ค่อยหงานแต่รวมๆถือว่าดีครับ
ความสดของซีฟู้ดถือว่าดีมากครับ ทั้งปู กุ้ง กั้ง แกะง่ายเนื้อไม่เละ ในส่วนของน้ำจิ้มอาจจะยังไม่ค่อยแซ่บโดนใจมากนัก ซึ่งทางเราก็ได้แจ้งทางโรงแรมไปว่าอยากให้เพิ่มรสชาติให้เหมาะกับคนไทยอีกนิดครับ
Carving Station มี 4 เมนู ให้เลือก ซี่โครงแกะ, เนื้อวัว ปลากระพง และเป็ด
เป็ดจะห่อมาในลักษณะเป็ดปักกิ่ง แต่เนื้อเป็ดจะเป็นเป็ดพะโล้ครับ
มุมอาหารญี่ปุ่น ทั้งซูชิ ซาชิมิ และเครื่องเคียงต่างๆ อาาจะไม่ได้ใหญ่อลังแต่ว่าคุณภาพของวัตถุดิบถือว่าค่อนข้างดีครับ
มาดูกันที่อาหารพิเศษกันต่อครับ โดยจะเป็นเมนูตามสั่งครับ สั่งได้จากในเมนูเลย
โดยเราสามารถสั่งที่พนักงานได้เลย ซึ่งอาหารเหล่านี้จะเป็นตามสั่ง ดังนั้นอาจต้องรอกันนิดนึง
Egg Royal เมนูแรก ไข่ลวกเสิร์ฟพร้อมกับแซลมอนรมควันท้อปมาบนขนมปังครับ หรือที่เราคุ้นเคยกันดีในเมนู Egg Benedict
Pan-seared Foie Gras ฟัวกราส์ชิ้นใหญ่ๆเสิร์ฟพร้อมกับขนมปังและซอสบลูเบอร์รี่
ฟัวกราส์ชิ้นใหญ่ หนา นุ่ม เต็มปากเต็มคำมากๆครับ ใครชอบฟัวกราส์ห้ามพลาดครับ
Home Smoked เมนูนี้จะมีให้เลือกสองอย่างครับคือเนื้อวัวโกเบและเนื้อปลาแซลมอนครับ เสร์ฟมาในขวดโหลที่ Smoked มาอย่างหอมกรุ่น
ดูลึกลับยังกะหีบแพนโดรา เมนูนี้ยกมาเสิร์ฟสร้างความว้าวได้มากๆครับ
คอเนื้อห้ามพลาดครับ เนื้อโกเบนุ่มๆ Grilled มาอย่างดี รมควันมาหอมๆ เริ่ดดดด
Moules Frites หอยแมลงภู่อบซอสไวน์ขาวเสิร์ฟพร้อมเฟรนฟรายด์และซอสมายองเนส ทำได้ดีครับเมนูนี้ รสชาติกลมกล่อม
เมนูอาหารนานาชาติต่างๆที่จะหมนุเวียนเปลี่ยนไปเรื่อยๆครับ ทั้งอาหารไทย อาหารตะวันตก ติ่มซำ
Cheese & Cold Cut Corner มีให้เลือกหลากหลายมากครับ
Pasta Station มีให้เลือกทานได้หลายอย่างเลยครับ แต่เราไม่ได้ทานเลยครับ มัวแต่กิน Lobster ^^
เทียบขนาดให้เห็นชัดๆว่าก้ามใหญ่แค่ไหน
เปรมปรีดิ์กันมากๆ
มีมากันแบบครบๆทั้งตัวทั้งก้าม ฟินมากๆๆๆ
ซูชิหน้าตาดีมาก
ช่วงเวลาแห่งความสุข โต๊ะวิเศษมีอยู่จริง
อิ่มจากของคาวกันแล้วก็ต้องมาต่อกันที่ของหวาน
แพนเค้กอร่อย หอมมาก อยากให้ลองเลย ใครเคยกินของวีรสุผมว่าหอม หวาน อร่อย คล้ายกันเลย
มาท้อปกับไอศกรีมแบบนี้ก็ยิ่งอร่อย
ของหวานที่นี่แยกออกมาเป็นอีกห้องนึงเลย เยอะมากๆ
ทั้งเค้ก ไอศกรีม ช็อคโกแลต แพนเค้ก วาฟเฟิล และผลไม้สดมีให้เลือกครบเลย รสชาติดีด้วย อย่าลืมเก็บท้องไว้กินของหวานกันนะครับ
อ้อลืมบอกไปว่า บุฟเฟต์ที่นี่มีน้ำเปล่า และ Soft Drink ให้นะครับ แต่ถ้าใครอยากกินแอลกอฮอล์ต้องจ่ายเพิ่มครับ มี Free Flow เช่นกัน
สำหรับเด็กๆที่นี่มีมุม Kid’s Corner ให้เล่นกันด้วยนะครับ หรือถ้าจะมาว่ายน้ำด้านนอกหลังจากมื้ออาหารก็ได้
Sunday Brunch ของห้องอาหาร Tamarind Natural Dining (แทมมาริน เนเชอรัล ไดนิ่ง) โรงแรม Mövenpick BDMS Wellness Resort Bangkok (เมอเวนพิค บีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท กรุงเทพ)
วันที่เปิดบริการ : เฉพาะวันอาทิตย์เท่านั้น
เวลาที่เปิดบริการ : 12.00 น. – 15.30 น.
ราคาผู้ใหญ่ : 2,500++ บาท/คน หรือ 2,943 บาท/คน net (รวมน้ำเปล่าและ Free Flow Soft Drink แล้ว)
ราคาเด็ก อายุต่ำกว่า 12 ปีลงมา : 1,250++ บาท/คน หรือ 1,472 บาท/คน net (รวมน้ำเปล่าและ Free Flow Soft Drink แล้ว)
พิเศษเฉพาะช่วงนี้!! หากใครทำการสำรองที่นั่งล่วงหน้า ไม่ว่าจะทางโทรศัพท์หรือ Facebook Mövenpick BDMS Wellness Resort Bangkok ก็จะได้รับส่วนลด 20% เหลือเพียง 2,354 บาท/คน net เท่านั้น (รวมน้ำเปล่าและ Free Flow Soft Drink แล้ว)
หมายเหตุ : สำหรับ In House Guest จะได้รับส่วนลดพิเศษ 30%
สำหรับ Sunday Brunch ที่ Movenpick BDMS Wellness Resort มื้อนี้ป๊าแบงค์และหม่าม้าเล้งลงความเห็นตรงกันว่า เป็น Sunday Brunch ที่เน้นคุณภาพของวัตถุดิบมาก ๆ ทั้ง Lobster ฟัวกราส์ ซีฟู้ด เนื้อวัวต่างๆ ใช้ของเกรดดีมาก ใครอยากกินของอร่อยๆแบบจัดเต็มไม่อั้นในราคาที่ถือว่าคุ้มค่า มาลองได้เลยครับ รวมๆผมชอบและประทับใจมาก ถือจะมีข้อผิดพลาดนิดๆหน่อยแต่ก็พอให้อภัยกันได้กับของอร่อยๆดีๆแบบนี้
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ ทุกๆท่านที่ติดตามรีวิวของผมนะครับ หวังว่าคงจะมีประโยชน์กับท่านนะครับ รบกวนฝากไลค์ Facebook Fanpage BLJourney เพจน้องเบลล่า และ Share บทความต่างๆของ BLJourney เพื่อเป็นกำลังใจให้กับ ครอบครัวของเราด้วยครับ รีวิวหน้าจะไปที่ไหนกันอย่าลืมมาติดตามชมกันนะครับ ขอบคุณมากๆครับ