พาลูกเที่ยวยุโรป การเดินทางสู่ต่างทวีปของครอบครัวเรา หลังจากเตรียมตัวกันพร้อมแล้วก็มาตามดูกันนะคะว่าทริปสวิตเซอร์แลนด์ – เยอรมัน นี้จะสนุกสนานขนาดไหน มีอะไรให้เด็กๆไปเที่ยวกันบ้าง
Neuschwanstein Castle คือที่หมายแรกของเราในทริปนี้ หลังจากที่พาเด็กๆไปสนุกกันแบบสุดๆที่ Hong Kong Disneyland เป็นการบิ้วด์มาแล้ว ระหว่างนั้นเด็กๆก็ถามตลอดว่าเมื่อไหร่จะถึงปราสาทเจ้าหญิง

ขอย้อนกลับไปเล่าการเดินทางตั้งแต่บนเครื่องบินกันก่อนนะคะ สำหรับสายการบิน Finnair หลายๆคนอาจจะอยากรู้ว่าเป็นยังไง ที่นั่งกว้างมั้ย มาดูกันเลยค่ะ

สายการบิน Finnair ถือเป็นการสายการบินแบบ Full Service นะคะ มีบริการโหลดกระเป๋า บริการอาหาร มีระบบ Entertainment บนเครื่อง ส่วนการเลือกที่นั่งล่วงหน้าจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่ถ้ามาเช็คอินออนไลน์ช่วงใกล้ๆบินไม่แน่ใจว่า 48 ชม มั้ย ระบบจะเลือกที่นั่งให้รอตรงนี้ฟรีนะคะ




ที่นั่งขาไปจากฮ่องกงไปเฮลซิงกิ ฟินเลนด์ จะเป็นเครื่องใหญ่ บินตรงรวดเดียว 10 ชม ที่นั่งเป็น 3-4-3 นะคะ เรานั่งกันแบบ 3:1 นั่นคือหม่าม้าเล้งควบลูกทั้ง 2 คนโลด ป๊าแบงค์ก็นั่งกันข้าง ๆ นั่นแหละ มีทางเดินกั้นกลาง เด็ก ๆ ทั้งสองคนได้รับอนุญาตให้ดูการ์ตูนบนเครื่องได้ (ปกติไม่ค่อยจะได้ดูค่ะ) เพราะต้องนั่งกันยาว ๆ ทั้งสองสาวเลยเอ็นจอยกันสุด ๆ ดูเสร็จแล้วก็หลับกันยาว ๆ แวะต่อเครื่องที่ฟินแลนด์แล้วก็ลงเครื่องกันที่ซูริคเลยค่ะ



ช่วงเวลา Transit ประมาณ 1.45 ชั่วโมงค่ะ เผื่อเวลาไว้เข้าแถมผ่าน ตม กันด้วย ส่วนขากลับสามารถมาช้อปที่นี่กันได้ทั้ง Merimekko และ MooMin รายละเอียดการช้อปอย่างเมามันดูได้ที่ https://www.facebook.com/pg/BLJourney/photos/?tab=album&album_id=2388688094477352 (ช้อปให้เสร็จก่อนผ่าน ตม นะคะ เพราะผ่านไปแล้วจะไม่มีอะไรให้ช้อปแล้ว)


ถึงเวลาเปลี่ยนเครื่องไปซูริค เครื่องจะเป็น 3-3 นะคะ ไม่มีจออะไรให้ดูแล้ว บินแปปนึงก็ถึง


รับกระเป๋าเสร็จสรรพก็มารับรถเข็นเด็กช่องนี้นะคะ จะไม่ได้ออกมาพร้อมกับสายพานกระเป๋า

Hello Zurich ถึงแล้วก็แวะตุนเสบียงกันก่อน Coop คือโอเอซิสของเราเลยก็ว่าได้แวะกันทั้งทริป

เรียบร้อยแล้วก็ตามหาเคาน์เตอร์ของรถเช่ากัน ไปทางไหนดี

ใครเช่าของบริษัทไหนก็มาหากันได้จ้า อยู่รวมๆกันหมดเลย

ส่งเอกสารให้เค้า เค้าก็ให้กุญแจมา แนะนำให้ซื้อประกันเพิ่มนู่นนี่ตามปกติ เพื่อความสบายใจก็ซื้อเพิ่มไปในส่วนที่คุ้มครองยางแบน การโดนเฉี่ยวชนในลานจอดรถไรแบบนี้ เรียบร้อยพนักงานก็จะบอกว่ารถอยู่ที่ลอคไหน เฮ้ยยยยยยย…ได้หรอ แค่เริ่มก็สนุกแล้ว

พวกเราก็เดินตามหารถกัน แล้วก็เก็บกระเป๋าให้เรียบร้อย

กระเป๋า 3 ใบ แน่นๆพอดีเลย

Let’s Go ออกเดินทางกันเลย พวงมาลัยบ้านเค้าอยู่ทางฝั่งซ้ายนะคะ เป็นครั้งแรกที่ป๊าแบงค์ได้ขับรถพวงมาลัยซ้ายเลย

ในช่วงแรกเลยให้นางปรับตัวด้วยการพาพวกเราไปที่ร้าน Freitag ผลิตภัณฑ์โอท้อปแห่งเมืองซูริคจ้า ซึ่งกระเป๋าพวกนี้ทำมาจากผ้าใบที่ใช้คลุมรถบรรทุกของบ้านเค้า หรือในส่วนที่ไม่ได้ทำมาจากผ้าใบ ก็ทำมาจากวัสดุรีไซเคิล โอ้วโหววว เหมาะกับสาวรักษ์โลกอย่างเรามาก นี่ลงรถไปคนเดียวเพราะเด็ก ๆ หลับ หวังใจจะไปทำคลิปเต็มที่ เลยถามพนักงานขอเค้าถ่ายคลิป เค้าไม่ให้ถ่ายอ้ะ เค้าบอกว่าถ้าจะถ่ายต้องไม่ให้เห็นกระเป๋าเค้า ไม่ให้เห็นลูกค้า โอ๊ยยยยย…What? เลยถ่ายแต่รูปตัวเองกับกระเป๋ามาละกัน ซึ่งบอกตง ๆ ว่ากระเป๋าแนวนี้มันไม่ใช่แนวเรา ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ยังไม่ได้ถือเล้ยยยยย คิดซะว่ามันเป็นของที่ระทึกจากเมืองซูริคละกันเนอะ เอาไว้แต่งบ้านก็ได้
รีวิวร้าน Freitag สาขาใหญ่ ณ ซูริค

หลังจากนั้น เราก็ขับรถยาวๆมุ่งตรงพาเหล่าเจ้าหญิงไปเที่ยวปราสาท Neuschwanstein ที่เมืองฟุซเซ่น ประเทศเยอรมันกันค่ะ (ข้อแนะนำ อย่าลืมซื้อ Sticker สำหรับผ่านเข้าออสเตรีย แปะหน้ารถนะคะ ของเยอรมันไม่ต้องใช้ ซื้อได้ตามปั๊มแถวๆชายแดน ป๊าแบงค์พลาดโดนใบสั่งส่งมา 120 Euro เพราะแวบเข้าไปออสเตรียช่วงบนทางด่วนโดยไม่รู้ตัว)


ปราสาทนอยชวานสไตน์สร้างขึ้นโดยพระเจ้าลุดวิกที่ 2 แห่งรัฐบาวาเรีย ตั้งอยู่ในเทือกเขาแอลป์ สร้างขึ้นในช่วงปี 1845 – 1886 ซึ่งเป็นปราสาทที่เป็นต้นแบบของปราสาทเจ้าหญิงนิทรา ในการ์ตูนวอลท์ ดิสนีย์นั่นเอง

อย่างที่เกริ่นกันไปนะคะ ว่าคุณลัลลาเบลกำลังเห่อความเป็นเจ้าหญิง เราเลยตั้งใจกันว่าจะพาเจ้าหญิงของเราขึ้นปราสาทโดยรถม้าค่ะ และตั้งใจจะเดินกันแค่รอบนอก เพราะด้านในเด็กไม่อินแน่นอน และต้องไปถ่ายรูปกับปราสาทกันที่ Maria Bridge กัน

จอดรถได้ก็รีบวิ่งไปซื้อตั๋วกันก่อนเลย โดยจุดจำหน่ายตั๋วนี้จะจำหน่ายตั๋วทั้ง 2 ปราสาท ปราสาทโฮนชวานเกา (Hohenschwangau) , ปราสาทนอยชวานชไตน์ (Neuschwanstein) และพิพิธภัณฑ์ จะมีแพ็คเกจให้เลือกหรือจะซื้อแยกเป็นสถานที่ก็ได้ค่ะ และถ้าเราคิดว่าช่วงที่เรามาคนจะเยอะ สามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ที่ https://www.hohenschwangau.de/856.0.html แต่ต้องเผื่อเวลามารับตั๋วกันด้วยนะคะ สัก 1 ชั่วโมง เพราะต้องเผื่อเวลาขึ้นข้างบนด้วย

โจทย์สั้น ๆ ง่าย ๆ แต่เรื่องจริงคือไม่ง่ายเลย เริ่มตั้งแต่ที่ว่าเรามาถึงกันตอนเย็นย่ำแล้ว นักท่องเที่ยวเริ่มบางตา รถม้าจะออกเมื่อผู้โดยสารเต็มเท่านั้น



ระหว่างนั้นก็รอ รอ และรออย่างเดียว


ค่านั่งรถม้านะคะ ราคาผู้ใหญ่ เด็ก ขาขึ้น และ ขาลง และแบบเหมาไปเลย (แอบแรง)

พวกเรานั่งรอผู้โดยสารคนอื่น ๆ ประมาณชั่วโมงนึงเลยถอดใจ นั่งรถเมล์ก็ได้ เลยลงไปที่ป้ายรถเมล์ รถก็ไม่มี หันกลับมาที่รถม้าอีกที อ้าวคนเต็ม มันคืออะไร!!!! เลยเบียด ๆ กันขึ้นไป ได้นั่งรถม้าเป็นเจ้าหญิงสมใจ


ไหนๆมาถึงปราสาททั้งทีเพื่อความอินขั้นสุดก็ขอนั่งรถม้าสักหน่อยคะ


แต่ทางเดินไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบฉันใด รถม้าก็ไม่ได้ส่งเราถึงปราสาทฉันนั้น เราต้องเดินต่อกันอีกประมาณ 10 นาที เป็นทางขึ้นเขา ฮรือออออ เหนื่อยจังเลยจ่ะแม่จ๋า




ขึ้นไปถ่ายรูปได้ 5 นาที ก็มีเสียงระฆังเชิญเราลงมาจากปราสาทจ้า ปราสาทปิดในเวลา 6 โมงเย็น เจ้าหน้าที่บอกว่าลงได้แล้วจ้า ชั้นจะกลับบ้าน ป๊าแบงค์บขอถ่าย 1 รูปสุดท้ายแล้ววิ่งตามลงมา


นี่คือสาเหตุว่าทำไมในรูปถึงไม่มีคนอื่นเลยค่ะ



ได้ถ่ายหน้าปราสาทแปปนึง แต่ไม่เป็นไร เพราะมันยังไม่ใช่ไฮไลท์ ไฮไลท์ของเราอยู่ที่สะพาน Marienbruke (Maria’s Bridge) กันจ้า มองจากปราสาทไปเห็นแล้วแทบถอดใจ


จากรูปด้านบนจะเห็นได้ว่าทางขึ้นเวลาเดินกับรถม้าจะมาทางซ้าย ส่วน Marienbruke จะอยู่ด้านขวา ซึ่งถ้าเรานั่งรถม้าจะจอดด้านหน้าปราสาท ส่วนถ้าขึ้นรถบัสจะมาจอดใกล้สะพานค่ะ

เราสอบถามกันแล้วว่าสะพานไม่มีเวลาปิด (แต่รถเมล์รอบสุดท้ายกำลังจะหมดแล้วนะ) เลยทำเวลาเดินขึ้นไป อันนี้โหดจริง แม้ว่าจะเป็นทางถนน แต่มันก็ลาดชันในบางช่วง สองสาวบ่นกันตลอดทาง และสองข้างทางแทบจะไม่มีคนเดินขึ้นมากับเรา เราจะถามทุกคนที่เดินสวนกับเราว่าอีกไกลมั้ย ฮ่า ๆ ๆ เอาไว้เป็นกำลังใจ



เดินไปบ่นไปตลอดทางกันเลย


เดินมากันจนถึงสะพาน โหยยยย มีคนถ่ายรูปอยู่บนสะพานกันแค่ 4 คนเองจ้าแม่จ๋า นี่คือสิ่งดี ๆ ของวันนี้ เพราะได้ข่าวว่าสะพานตรงนี้คือจุดที่ฮอตที่สุด คนจะมาถ่ายรูปกันเยอะมาก ต้องแย่งชิงมุมสวยกับกรุ๊ปทัวร์ แต่นี่เราได้มากันแบบสุด exclusive เพราะไม่มีใครเหลือเลย ได้ถ่ายรูปกันหนำใจ








อิ่มหนำกับวิวสวยๆกันแล้วก็รีบวิ่งจู๊ดมารอรถ ลงจากปราสาทกันด้วยรถบัสรอบสุดท้าย ประมาณ 18.45 ค่ะ


จากรูปจะเห็นว่าวิ่งจู๊ดจริงๆ สองเด็กพลังหมดแล้ว



มาดูคลิปกันได้นะคะ
ลืมเล่าไปว่าตรงข้ามกับ Neuschwanstein Castle ก็มีอีกหนึ่งปราสาทนะคะ ชื่อ Hohenschwangau Castle เป็นพิพิธภัณฑ์เช่นกัน ซึ่งเด็ก ๆ ไม่น่าจะอินกับพิพิธภัณฑ์แนวนี้ เราเลยไม่ได้ตั้งใจมาค่ะ แต่ใครที่สนใจ ก็ซื้อบัตรเข้าชมที่จุดเดียวกันได้เลย


วันแรกในยุโรปเป็นวันที่เหนื่อยมาก เพราะนั่งเครื่องบินข้ามกันมาหลาย time zone มาก จากฮ่องกงมาเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ ห่างกันประมาณ 7 ชั่วโมง (ฮ่องกงเร็วกว่า) และจากฟินแลนด์ มาที่ซูริค ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ห่างกัน 1 ชั่วโมง (ฟินแลนด์เร็วกว่า) และขับรถกันต่อจากซูริคมาที่ปราสาทนอยชวานสไตน์เมืองฟุซเซ่น



โปรแกรมต่อจากนี้คือขับไปที่ที่พักที่มิวนิคกันค่ะ ขับยาวๆมาถึงที่โรงแรมก็ 21.00 น. (ประมาณตีสามบ้านเรา ป๊าแบงค์ถึงกับสลบเลย) ที่พักของเราชื่อ Hotel Amenity อยู่ใจกลางเมืองเลยค่ะ เดินทางสะดวกมาก เราจองห้องแบบ 3 คนมา 2 คืน ราคารวม 196 ยูโร
สำหรับเพื่อนๆที่อยากตามรอยมา ก็สามารถส่องตั๋วโปรเด็ดๆคุ้มๆได้ตามนี้เลยค่ะ
เช็คราคา จองตั๋วเครื่องบินไปสวิสเซอร์แลนด์
https://www.traveloka.com/th-th/flight-to-switzerland
เช็คราคา จองตั๋วเครื่องบินไปเยอรมัน
https://www.traveloka.com/th-th/flight-to-germany
และขอแนะนำอีก 1 ตัวช่วยที่จะช่วยให้เพื่อนๆสะดวกในการเช็คอินมากขึ้นมีเวลาเหลือ ช้อปปิ้ง นั่งชิลๆก่อนขึ้นเครื่องกันได้สบายๆกับบริการ เช็คอินออนไลน์กับ Traveloka ซึ่งเราสามารถเช็คอินออนไลน์ง่ายๆ ผ่านแอพลิเคชั่น หรือหน้าเว็บ ของ Traveloka ได้เลย โดยมีสายการบินที่รองรับดังนี้ การบินไทย/ไทยสมายล์/ไทยไลอ้อนแอร์ และสายการบินของอินโดนีเซีย อย่างเช่น การูด้าแอร์ไลน์ (อัพเดท มกราคม 2563)
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.traveloka.com/th-th/checkin

ข้อดีของการเช็คอินออนไลน์กับ Travelok
– สะดวก และ รวดเร็วทันใจ ทำเองได้ง่ายๆ ช่วยทำให้การเดินทางง่ายขึ้นกว่าที่เคย
– Online Check-in กับ Traveloka มีเวลาเหลือก่อนขึ้นเครื่องแบบสบายๆ
– ในกรณีที่เราเดินทางใกล้ๆ สัมภาระไม่เยอะ ไม่ต้องโหลดกระเป๋า ก็ช่วยประหยัดเวลาในการเข้าคิวเช็คอิน ซึ่งถ้าเป็นช่วงวันหยุดแถวจะยาวมาก คราวนี้เราก็ไม่ต้องเสียเวลา รอบอร์ดดิ้งไทม์ได้เลย

วันแรกในการพาลูกเที่ยวยุโรปก็จบลงเรียบร้อย สำหรับตอนต่อไปเราจะพาไปเที่ยวที่สำคัญๆในเมืองมิวนิคกันต่อ จะเป็นที่ไหนเดี๋ยวจะมาแปะ Link ให้นะคะ สำหรับตอนนี้ก็ขอจบลงแต่เพียงเท่านี้ค่ะ

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณเพื่อนๆ ที่ติดตามรีวิวของเรานะคะหวังว่าคงจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆนะคะ รบกวนฝากไลค์ Facebook Fanpage BLJourney เพจน้องเบลล่า และ Share บทความต่างๆของ BLJourney.comเพื่อเป็นกำลังใจให้กับ ครอบครัวของเราด้วยค่ะ รีวิวหน้าจะไปที่ไหนกันอย่าลืมมาติดตามชมกันนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ
ขอฝากช่องทางใหม่ ติดต่อ สอบถาม ทริปการเดินทาง ข้อสงสัยต่างๆอย่างรวดเร็ว ทาง Line Official ID : @pbl1839c ได้เลยค่ะ
One thought on “Neuschwanstein Castle – พาลูกเที่ยวสวิส เยอรมัน วันที่ 1”