Yufuin เมื่อพูดถึง คิวชู เมือง ยุฟุอิน จะเป็นชื่อแรกๆที่มีการแนะนำให้ไปเที่ยวกัน รีวิวตอนนี้จะมาดูกันว่าทำไมใครๆถึงอยากไป พอไปแล้วก็หลงรักเมือง ยุฟุอิน นี้กันนะครับ
Yufuin เป้าหมายของเราในวันนี้ เมืองที่น่ารักมากๆ น่าไปสุดๆ นี่คือคำที่ผมได้ยินมา จนวันนี้เราจะได้ไปกันสักทีครับ
จริงๆเป้าหมายหลักของผมวันนี้ไม่ได้อยู่ที่ Yufuin ยุฟุอิน แต่กลับเป็นการนั่งรถไฟ Yufuin no Mori เจ้ารถไฟสีเขียวขบวนนี้ต่างหากครับ มาตามดูกันว่าทำไม เจ้ารถไฟขบวนนี้มีอะไรพิเศษ ทำไมเบลล่าถึงขอไปนั่ง ยุฟุอิน โมโนริ (เบลล่าเรียกแบบนี้ครับ ^^) ทุกครั้งที่เห็นรถไฟวิ่งผ่าน
เช้านี้กับอาหารเช้าแบบญี่ปุ่น ที่ทางโรงแรม Nogami Honkan เตรียมไว้ ปลาย่างแบบญี่ปุ่น กับข้าวสวยร้อนๆ น้ำส้ม ไข่ สลัด และซุป ครับ
ได้ฟิลแบบญี่ปุ่นมากๆครับ
ตารางการเดินทางวันนี้จาก Beppu ไป Yufuin นะครับ โบกมือลา Nogami Honkan ไปสู่สถานีรถไฟ Beppu กันด้วย Taxi ครับ เราให้ทางโรงแรมโทรตามมาให้เลยครับ เพราะจากสัมภาระที่งอกมาจาก Umitamago (うみたまご) Aquarium เมื่อวาน กับเวลาอีก 15นาที ก่อนรถไฟจะออก ใช้ Taxi ดีกว่าครับ 640 เยน เท่าเดิม ไม่ถึง 5 นาที ครับ สะดวกมาก
จาก Beppu ไป Yufuin ใน Hyperdia ให้เราขึ้นขบวน JR Nippo Line หรือ Sonic ก็ได้ แล้ว ไปต่อขบวน JR Kyudai Line ที่สถานี Oita ครับ
เกือบจะวุ่นนิดๆเพราะไปถึงสถานี Oita ไม่รู้ต้องไปต่อรถไฟที่ชานชลาไหน ถามคนญี่ปุ่นแถวนั้นก็บอกไม่มีนะ รถขบวนนี้ ซีดเลยครับ เจอคนไทยที่อยู่ญี่ปุ่นก็บอกไม่มี เราเลยลงมาข้างล่างเพื่อจะถามเจ้าหน้าที่ที่ Gate ครับ เหลือบไปเห็น 10.49 Yufuin ชานชลา 9 อุ้ยยย อีก 3 นาที ติดสปีด วิ่งตัวปลิวเลยครับ ถ้าพลาดขบวนนี้ก็อีก 40 นาทีเลย
หน้าตาเจ้า Kyudai Line ครับ
มาถึงรถไฟแบบฉิวเฉียด ทันเวลาพอดีครับ นั่งชมวิวกันไป สักพักใหญ่ๆครับ
เบลล่าเริ่มง่วง นั่งรถไฟนาน ^^
สถานีต่อไป Yufuin Next Station Yufuin ท่านผู้โดยสารที่ต้องการจะสัมผัสเมืองเล็กๆ น่ารักๆๆ สามารถลงได้ที่สถานี้นี้ ^^
มาถึง Yufuin แล้วครับ ทุกคนที่มาที่นี่จะพูดกันเป็นเสียงเดียวเลยว่าเมืองน่ารักมาก เราจึงต้องขอมาดูให้เห็นกับตา
เมือง ยุฟุอิน เมืองเล็กๆ แหล่งท่องเที่ยวที่คนนิยมกันก็จะมี ตามนี้ครับ ขอบคุณรูปจาก http://japan-guides.blogspot.com/ และ 2madames.com ครับ
เดินเป็นเส้นตรงตามทางได้เลยครับ ตั้งต้นจากสถานีรถไฟ เป้าหมายก็คือ Yufuin Floral Village, ทะเลสาบ Kirinko, วิวสวยๆของ Mount Yufu
ก่อนออกจากสถานีก็ไปฝากกระเป๋าที่ล็อคเกอร์กันก่อนครับ ออกจากตรงประตูทางเข้าชานชลาก็เดินไปทางซ้าย ผ่านห้องนั่งรอ จะมีล็อคเกอร์ครับ ผมไปได้ตู้สุดท้ายพอดี ถ้าตู้เต็มก็ไปฝากร้านขายของฝากฝั่งตรงข้ามได้ครับ มีตู้ล็อคเกอร์เหมือนกัน เอาตู้ใหญ่สุดเลยครับ เดินออกจากสถานี เป็นเส้นตรงไปเรื่อยๆได้เลย ครับ
ระหว่างทางเดินไปมีร้านอาหารระหว่าง 2 ข้างทาง มากมายเลยครับ เราตัดสินใจเลือกร้านนี้ครับ
เมนูข้าวหน้าปลาไหลญี่ปุ่นยั่วใจมากๆ
สั่งเซ็ตนี้ไปครับ 2500 เยน
ครั้งแรกในชีวิตกับ eel liver หรือ ตับปลาไหลครับ
ส่วนเนื้อปลานี่ก็หอม อร่อยมาก ไม่คาวเลยครับ เข้ากับซอสเป็นอย่างดี
ส่วนหม่าม้าเล้งผู้ไม่พิศมัยปลาไหล เลือกชุดไก่ทอดแทนครับ
ระหว่างรอเบลล่าตื่นมากินข้าว ผมก็เลยใช้ช่วงนี้ไปตามหา เค้ก B-Speak เค้กเจ้าดังครับ เดินตามถนนตรงไปเรื่อยๆเลยครับ ข้ามสะพาน Shiratakibashi ก็ถึงแล้วครับ
อยู่ตรงหัวมุมพอดี มองเข้าไปที่ร้านถนนด้านซ้ายเป็นทางรถวิ่ง ด้านขวาจะเป็นซอยเล็กๆ เป็นทางเดินไปยังสถานที่เที่ยวต่างๆของที่นี่ครับ
ประมาณเที่ยง เค้กโรลไซส์เล็กก็หมดเรียบร้อย เหลือแต่ไซส์ใหญ่ครับ ราคาก็ตามนี้ครับ (สำหรับคนที่พลาด ไม่ต้องเสียใจครับ ถ้าเดินทางด้วย Yufuin no Mori บนรถไฟมีขายครับ ราคาเท่ากับที่ร้านเลย)
ช็อคโกแลตแบบเคลือบครับ สามสี สามแบบ สีน้ำตาลจะเป็นแบบช็อคโกแลตเคลือบเมล็ดกาแฟครับ สีขาวเป็น Dark Choc เคลือบน่าจะอัลมอนด์ครับ สีฟ้าก็เป็นช็อคธรรมดาเคลือบอัลมอนด์ครับ อร่อยคนละแบบครับ
มาลองลิ้มชิมรสกันหน่อย ว่าทำไมถึงเป็น Must have item กันเลย
เนื้อเค้กนุ่ม ครีมหอม หวาน กลมกล่อมมากครับ
เค้กโรลขนาดใหญ่ หมดไปอย่างรวดเร็ว ^^
เติมพลังกันเป็นที่เรียบร้อยก็ได้เวลาเดินย่อยกันครับ Yufuin Main Walking Route มีความยาวประมาณ 700-800 เมตเท่านั้นครับ
แต่ กว่าจะเดินสุด ใช้เวลานานเลยทีเดียวครับ แวะร้านนู้น ร้านนี้ ตลอด
เมืองนี้น่ารักมากๆครับ มีเรื่องราว Story ต่างๆมากมายครับ
ใครไม่อยากเดินก็มีรถลากไว้บริการครับ
ร้านต่างๆพร้อมดูดเงินในกระเป๋าคุณอย่างสุดๆครับ
ร้านขายร่ม ของขึ้นชื่อของ Yufuin ครับ จุดเด่น ความเก๋ไก๋ อยู่ตรงที่เวลาโดนน้ำจะมีลวดลายขึ้นมาครับ
ใครหิวก็มี ร้านทาโกะยากิยักษ์ ไว้ให้เติมพลังกันครับ
ร้าน Ghibli ของน่ารักๆเยอะะเลยครับ
ฝั่งตรงข้ามจะเป็นร้านปลาหมึก อร่อยมากครับ เสียดายซื้อมาแค่ถุงเดียว ><
Yufuin Floral Village ด้านในจะมีร้านขายของน่ารักๆเต็มเลยครับ ตรกลางจะมีส่วนแสดงสัตว์ขนาดย่อมๆ พวกนกฮูก กระต่าย ประมาณนี้ครับ ต้องซื้อบัตรเข้าไปต่างหาก เบลล่าบอกไม่เข้าค่า อดไป ^^
ร้านขายสินค้ารูปสุนัข ตั้งตรงข้าม กับ ร้านขายสินค้ารูปแมว ใส่ใจรายละเอียดกันจริงๆครับ
ระหว่างทางเดิน สิ่งที่ดึงดูดความสนใจเบลล่ามากๆคือ นี่ครับ ตู้กดน้ำ และ กาชาปองต่างๆ
เดินกันเพลินๆครับ มาถึงร้านอาหาร Snoopy เมนูอาหารทั้งหมดเป็น ธีม Snoopy น่านั่งมากๆ แต่เราอิ่มกันเรียบร้อยแล้ว
ด้านหน้าจะมีไอศครีม matcha ครับ
ชาเขียวมากๆๆๆ วันนี้กินชาเขียวไปเยอะเลย
แวะต่อไอศครีมถ่านกับงา
เดินเพลินๆเลยครับ ถนนเส้นนี้
ช่วงเกือบสุดทางร้านค้าจะเจอร้านนี้ครับ เป็นร้านขายขนมโบราณแนวๆนั้น
ด้านในมีการจำลองบรรยากาศร้านค้า เมืองแบบเก่าๆไว้ครับ ค่าบัตรคนละ 500 เยน
แต่ผมได้บัตรเข้ามาจากการจับสลากครับ มีให้จับสลากในร้านขายของข้างๆครับ 100 เยน ได้ของเล่นเล็กๆน้อยๆให้เบลล่า และได้บัตรผ่านประตูอีกใบนึง
ตอนแรกเราตั้งใจจะไปให้ถึง ทะเลสาบครับ แต่ดูเวลาแล้ว ตอนเดินกลับอาจจะไม่ทันรถไฟที่จองได้ และยังจะต้องไปสำรวจร้านของฝากด้วย จึงตัดสินใจกลับเลยครับ ฟ้าครึ้มๆ ฝนตั้งเค้ามาด้วย
เราไม่ได้ไปแต่ขออนุญาตนำรูปมาฝากครับ จากเวป Japan-Guides.blogspot.com ครับ ถ้ามีเวลาแนะนำให้ไปครับ วิวสวยมากๆ
บริเวณด้านหน้าแต่ละร้านจะมีน้ำพุร้อนเล็กๆไว้ให้ล้างมือ ล้างหน้ากันครับ
ได้เวลาช๊อปปิ้ง
ร้านของฝากถ้าหันหน้าเข้าสถานีนะครับ ร้านด้านขวาเป็นร้านที่มีตู้ล็อคเกอร์ครับ จะมีของเยอะกว่า มีบ่อออนเซนแช่เท้าฟรี
และมีขนมกล่องนี้ครับ เจ้ารถไฟสีเขียว yufuin no mori กล่องเหล็กกับขนมที่คล้ายๆถั่วทอดแผ่นๆบ้านเราครับ สนนราคา 1000 เยน โดยประมาณ
แพคเกจน่ารักมากๆ
เดี๋ยวจะมี รีวิวขนมต่างๆให้อีกรอบนะครับ ว่าผมซื้ออะไรมาบ้าง และเป็นอย่างไร
เจ้ารถไฟสีเขียว ที่เรารอคอย มาเทียบชานชลาเรียบร้อย 2 ขบวนมาห่างกัน ประมาณชั่วโมงนิดๆ เราเลือกขบวนเย็นกว่าครับ Yufuin no Mori 6
ช่วงนี้ พนักงานก็มาเปลี่ยนเบาะที่นั่ง และ เบาะรองเพื่อความสะอาดครับ
แต่กว่าจะเข้าไปได้ต้องรอผู้โดยสาร ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับ Yufuin no Mori กันก่อนครับ
Yufuin no Mori หมายความว่า ผืนป่าของยุฟุอิน ภายนอกจึงใช้สีเขียวเพื่อให้สอดคล้องกับป่าฝนของยุฟุอิน ภายในจะจะตกแต่งด้วยไม้เป็นหลัก เพื่อให้ความรู้สึกป่า
การจัดแสงภายในขบวนจะพยายามให้เหมือนแสงแดดลอดผ่านแมกไม้
จากที่เคยบอกว่า แนวคิดของ คุณ เอจิ มิโตโอะกะ จะออกแบบทุกอย่าง ตั้งแต่รูปแบบภายใน คอนเซปท์แต่ละขบวน ตลอดจนเครื่องแต่งกาย ซึ่งคุณเอจิบอกว่า ถ้าพนักงานใส่ชุดยูนิฟอร์มที่ดูดี สวยงาม ก็จะยิ่งรู้สึกภูมิใจในงานที่ทำ พนักงานจะยืนโค้งคำนับ ผู้โดยสารทุกท่าน ที่มาใช้บริการ พร้อมทั้งเชื้อเชิญขึ้นรถไฟด้วยความสุภาพ อ่อนน้อม
ส่วนเจ้ารถไฟสาย Seven Stars รถไฟที่หรูและคิวยาวจองกันข้ามปี ความหรูหราภายในนี่สุดยอดครับ
ได้ที่นั่งกันเรียบร้อยก็ออกเที่ยวบนรถไฟกันครับ สังเกตดูจะเห็นว่ารถไฟขบวนนี้ ขนาดหน้าต่างจะค่อนข้างใหญ่ เพื่อให้อิ่มเอม และ สัมผัสถึงความเป็นธรรมชาติเวลาแล่นผ่านภูเขาและทิวป่า
รถไฟ ถูกออกแบบมาได้อย่างสวยงาม รายละเอียดต่างๆ ปราณีตมากๆครับ เส้นทุกเส้น ลายทุกลาย ล้วนแต่มาจากแนวคิดที่กลั่นกรองออกมาของคุณ เอจิ มิโตโอะกะ
การออกแบบรถไฟขบวนนี้ จะยกพื้น สูงกว่าปกติ ระดับที่นั่ง และร ะดับสายตาก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย การเดินข้ามแต่ละตู้บนขบวน จะค่อนข้างยาวกว่าขบวนอื่นๆ ทำให้เดินได้อย่างสะดวกมากขึ้น ไม่โอนไปเอนมา และทำให้แต่ละตู้เ คลื่อนไหวได้นุ่มนวลขึ้น
ตู้เสบียงของ Yufuin no Mori คืออีกหนึ่งจุดเด่นของรถไฟขบวนนี้ Yufuin no Moriเป็นรถไฟเพียงขบวนเดียวที่มีข้าวกล่องรถไฟหรือ เอกิเบ็น ทำมาขายอย่างเป็นทางการ
นอกจากอาหาร เครื่องดื่มแล้ว ก็ยังมีของที่ระลึกจำหน่ายกันด้วยครับ
มีทั้งขนม ของคาว ของหวาน ของที่ระลึกต่างๆ เค้ก B Speak ก็ซื้อบนนี้ได้ครับ ราคาเท่าที่ร้านเลย
ตราประทับที่ระลึกของ Yufuin no Mori ก็อยู่ที่ตู้เสบียงครับ
พุดดิ้งกับไอศครีม ของหวานของดังของ Yufuin no Mori นอกจากนี้ยังมี Yufuin Cyder เครื่องดื่มยอดนิยมของ Yufuin ครับ
ประมาณ 2 ชั่วโมง กับระยะทางประมาณ 130 กิโล ช้าแต่อิ่มเอมกับวิวสวยๆตลอดเส้นทาง เวลาผ่านวิวสวยๆ คนขับจะลดความเร็วลงเพื่อให้ชมวิวกันชัดๆด้วยครับ
อาหารเย็นวันนี้ เบนโตะ บนรถไฟครับ ที่เราเลือกกลับตอนเย็นก็เพื่อจะได้นั่งทานข้าวเย็นกันบนรถไฟนี่ล่ะครับ
เบนโตะเหล่านี้จะเป็นการนำเอาของดีต่างๆของภูมิภาคนี้ มาร่วมกันออกแบบ มาปรุงอย่างพิถีพิถัน ใส่ใจ เพื่อแสดงถึงเอกลักษณ์ของวัตุดิบ และ ตัวตนของเมืองต่างๆเป็นอย่างดี
พนักงานประจำรถไฟตื่นเต้นกันมากๆครับ ตอนที่เค้าเห็นรูปเค้าและเพื่อนๆในหนังสือ ของบ้านเรา
ไฮไลท์ของการนั่งรถไฟขบวนดังๆของ ภูมิภาคคิวชู ก็คือการถ่ายรูปเป็นที่ระลึก กับป้ายรถไฟ และ วันที่ขึ้นมาใช้บริการครับ
สุดท้ายผมก็ขอฝากรีวิวของครอบครัวB&L ของเราไว้ด้วยนะครับ ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ด้วยครับ รีวิวตอนต่อไปจะไปเที่ยว คุมาโมโต ชมความยิ่งใหญ่ของ ปราสาท คุมาโมโต กันครับ จะสนุกสนาน ประทับใจขนาดไหน ความฝันเราจะเป็นจริงหรือไม่ รอติดตามได้เลยครับ ^^
ปล.หากท่านอ่านรีวิวมาถึงตรงนี้ ผมขอขอบคุณทุกๆท่านเป็นอย่างมากที่ได้เข้ามาติดตามรีวิวของผม ผมหวังว่าข้อมูลต่างๆนี้จะเป็นข้อมูลและมีประโยชน์แก่ผู้ที่สนใจจะเดินทางไปนะครับ สุดท้ายนี้ หากท่านชอบรีวิวของเรา เพียงแค่ฝากคอมเม้นท์ กด Like กด Shareที่ Fanpage ของผม https://www.facebook.com/BLJourney เพื่อเป็นกำลังใจเล็กๆน้อยแก่ผมด้วยครับ ขอบคุณมากๆครับ
Saved as a favorite, І like your web site!
Saved as a favorite, I really like your blog!